ตัวอย่างคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สินหรือแจ้งเท็จ


ปกคดีทรัพย์สิน

การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการทุจริตและตรวจสอบความโปร่งใสของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยต้องยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งจะมีการตรวจสอบความถูกต้องและเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด


หากผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน จงใจไม่ยื่นบัญชี หรือจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาของทรัพย์สินหรือหนี้สิน จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้นั้น และให้มาชี้แจงเหตุผล และหากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าผู้นั้นจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยื่นเท็จ หรือปกปิด จะส่งดำเนินคดีกับผู้นั้นต่อศาลต่อไป


สำหรับโทษของการจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ยื่นเท็จ หรือปกปิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้พ้นจากตำแหน่ง และอาจถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้ง ไม่เกิน 10 ปี ด้วย


คดีตัวอย่างกรณีไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน

นายปฐมพงศ์ ลือมาน๊ะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวัด จ.ปัตตานี (ดำรงตำแหน่ง 29 พ.ย. 56 - 1 ต.ค. 64) ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นตำแหน่งภายในกำหนด (30 พ.ย. 64) แม้ได้รับหนังสือเตือนและแจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ตอบรับ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้รับด้วยตนเองแต่ไม่ดำเนินการใดๆ จึงถือว่ารับทราบข้อกล่าวหาและไม่ประสงค์แก้ข้อกล่าวหา

ผู้ถูกกล่าวหาเคยยืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี่สินและเอกสารประกอบต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว ย่อมทราบถึงหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง

พิพากษาว่า นายปฐมพงศ์ ลือมาน๊ะ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากดำแหน่งรน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวัด อำเภอยะจัง จังหวัดปัตตานี ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป และ จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี


ปกปิดทรัพย์สิน.png


คดีตัวอย่างกรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ

นายประหยัด พวงจำปา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน 6 รายการ

พิพากษาให้จำเลยมีความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินของนาง ธ. ภรรยา รายการห้องชุดเลขที่สหราชอาณาจักร และบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาลอนดอน สหราชอาณาจักร จำนวน 3 บัญชี ให้พ้นจากตําแหน่งและห้ามมิให้จําเลยดํารงตําแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลาห้าปี และลงโทษจําคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี


โทษของการปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หรือแจ้งเท็จ อาจจะดูน้อย เนื่องจากไม่ใช่การทุจริตโดยตรง เพียงแต่การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่หากถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งขึ้นมา ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตลอดไป เปรียบเสมือนกับโทษประหารชีวิตทางการเมืองเลยทีเดียว



#acm #ACM #VirtualMuseum #AntiCorruptionMuseum #ต้านโกง #พิพิธภัณฑ์ต้านโกง #ต้านโกงเสมือนจริง #กลโกง #กลโกงปกปิดบัญชีทรัพย์สิน #กลโกงปกปิดบัญชี #กลโกงแจ้งบัญชีเท็จ #แจ้งเท็จ #ไม่ยื่นบัญชี #ซุกทรัพย์สิน


ออกแบบภาพและเรียบเรียงเนื้อหาโดย : กนต์ธร บัวงาม เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ พิพิธภัณฑ์ต้านโกง


ที่มาข้อมูล
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา 109 114 167
คำพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.33/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.19/2567
คำพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2566
คำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อม.อธ 5/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 14/2566

Follow the news